การที่เราจะทำการใดให้ประสบความสำเร็จได้นั้น อาจจะต้องมีแรงจูงใจมาผลักดัน
แรงจูงใจ แบ่งเป็น 2 ประเภท
คือ แรงจูงใจจากภายนอกและแรงจูงใจจากภายใน แรงจูงใจจากภายนอกมีอิทธิพลต่อทรรศนะของพวกเราที่มีต่อการงาน และการเสียสละต่าง ๆ และเป็นตัวคอยกระตุ้นให้คุณพยายามเอาชนะสิ่งต่าง ๆ ในขณะที่แรงจูงใจจากภายในเป็นตัวกระตุ้นให้พวกเราสนุกสนานไปกับการงานและ สนุกกับชีวิตของเราเอง
ถ้าคุณเป็นคนที่มี แรงจูงใจจากภายนอกเป็นตัวกระตุ้นซะเป็นส่วนใหญ่ คุณเป็นคนมีความทะเยอทะยานเหลือเฟือมากเกินพอดีเสียจนไม่ค่อยจะยอมสนุกสนาน ไปกับงาน หรือคุณภาพของงานที่คุณทำ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณมีเพียงว่า คนอื่นเขาจะประเมินความสำเร็จของคุณอย่างไร คุณเป็นคนที่ใช้เวลากับการทำงานมาก แต่ไม่ค่อยจะมีสมาธิในการทำงานสักเท่าไร เพราะคุณมีอันใช้เวลาเที่ยววิเคราะห์เรื่องราวความเป็นไปภายในที่ทำงานซะ เป็นส่วนใหญ่ และก็มีคนอีกประเภทหนึ่งซึ่งมีแรงจูงใจจากภายในสูง หากคุณเป็นคนประเภทนี้ คุณจะรักงานของคุณ และไม่ค่อยแคร์ว่าคนอื่นเขาจะสนใจว่าคุณประสบความสำเร็จหรือไม่ ตัวคุณเองนั่นแหละที่เป็นคนประทับใจในผลงานของคุณ คุณไม่สนใจคำสรรเสริญเยินยอ แถมไม่สนใจจะแข่งขัน คุณไม่วางกลยุทธ์ระยะยาว แต่คุณจะพยายามต่อสู้เพื่อแสวงหาความท้าทายและความสนใจส่วนตัว ไม่ใส่ใจในเวลาที่คุณเสียสละใช้เพื่อนการงาน เพราะคุณสนุกสนานไปซะหมดกับสิ่งที่คุณทำอยู่
การแข่งขัน 3 รูปแบบ
– การ แข่งขันเชิงรุก จุดประสงค์หลักที่ทำให้คนเรารุกบุกหน้า ก็เพื่อให้ตนเองก้าวล้ำนำหน้าคนอื่น ๆ แต่ความรู้สึกนี้จะจางหายไปได้ค่อนข้างจะเร็ว ใครก็ตามที่ตั้งใจแน่วแน่จะเอาชนะผู้ร่วมงานคนอื่นมักจะประสบความสำเร็จด้อย กว่า ความสำเร็จที่ว่านี้เขาวัดกันที่ตำแหน่งหน้าที่การงานเงินเดือน และการได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง การต่อสู้แข่งขันเป็นตัวบ่งบอกลักษณะของคุณได้ ว่ากันว่าคนที่รักการแข่งขันเชิงรุก เป็นคนลึกลับ ไม่ไว้ใจคนอื่น ยักย้ายถ่ายเท และคอยคิดแต่จะเอาชนะมากกว่าที่จะตั้งใจทำงานของตัวเอง หรือร่วมงานกับคนอื่น แต่มันก็มีผลเสียตรงที่ความอยากจะเอาชนะกลับกลายเป็นตัวบั่นทอนความสัมพันธ์ ระหว่างคุณกับคนอื่น
– การแข่งขันเชิงรับ จะเป็นรูปแบบการป้องกันตัวเองมากกว่าเที่ยวไปรุกรานชาวบ้านเขา รูปแบบนี้จะเป็นตัวจูงใจให้คุณประพฤติตัวเพื่อหวังผลเลิศ ซึ่งจะเป็นเกราะป้องกันตัวคุณจากการถูกคนอื่นมาโจมตี แถมยังทำให้คุณคอยจับตามอง และเฝ้าระวังคู่ต่อสู้ ตลอดจนเรียนรู้ว่าคู่ต่อสู้ของคุณนั้นเขาทำอะไรกันอยู่บ้าง ทำให้คุณมีสายตาที่กว้างไกล แต่ถ้าจะมองกันในทางลบแล้ว การแข่งขันเชิงรับอาจเปลี่ยนเป็นความอิจฉาริษยา เมื่อใดก็ตามที่สภาพการงานของคุณคลอนแคลน หรือโดนคนอื่นก้าวล้ำหน้าไป กรณีนี้เกิดขึ้นได้กับคนที่อยากจะเอาแต่ชนะท่าเดียว
– การ แข่งขันต่อสู้จากภายใน การแข่งขันนี้เป็นแรงจากภายในตัวคุณที่คอยผลักให้คุณดำเนินการใด ๆ ไปได้ แต่ความสนใจที่คุณมีต่อสิ่งใด ๆ นี้จะหมดไปในเวลาไม่นานนัก แรงจูงใจจากการแข่งขันนี้ทำให้คุณทำงานยากเย็นใด ๆ สำเร็จลุล่วงไปได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับทัศนคติของคุณที่มีต่อการงานชิ้นนั้นด้วย
สิ่ง สำคัญที่สุด คือ ควรเปิดใจกว้างยอมรับความคิดเห็นต่าง ๆ ที่เกิดจากการทำงานร่วมกัน ขณะคุณโดนแรงแข่งขันพาคุณลิ่วสู้การงาน คุณอาจไม่ยอมรับคำแนะนำต่าง ๆ ของคนอื่น หรืออีกทีคุณอาจไม่ยอมรับความร่วมมือใด ๆ จะทำให้คุณได้ข่าวสารข้อมูลและความคิดเห็นจากคนอื่นเขา ซึ่งจะช่วยเสริมให้คุณบรรลุเป้าหมายของคุณเองได้ รวมทั้งของคนอื่นด้วยยังไงล่ะ
***ขอบคุณข้อมูลดีๆ ขออภัยที่ไมทราบที่มา