จากความห่วงใยของพ่อ
พ่อเคยสอนว่า
ลูกรัก…..
ลูกจงตั้งใจศึกษาเล่าเรียน
ให้ได้เป็นคนดีเป็นศรีแก่ตระกูลของเรา
อย่าให้เป็นเหมือนอดีตของพ่อ
พ่อสู้กับความยากลำบากมามากแล้ว
ลูกอย่าลืมว่าวันนี้มันต่างกับอดีต
โลกเปลี่ยนแปลงไปเหมือนสังขารของมนุษย์
ถ้าไม่มีการศึกษาหรือมีการศึกษาต่ำ
เราก็จะกลายเป็นคนล้าหลังไม่ทันโลก
เราอยู่ร่วมโลกกับเขาลำบาก
เมื่อลูกจากบ้านไปศึกษาในแดนไกล
ลูกจงคิดและตระหนักรู้เสมอว่า
เราจากบ้านมาเพื่อศึกษา
เพื่อหาความรู้ และความดีใส่ตัว
เมื่อลูกพบกับความยากลำบากก็ต้องอดทนต่อสู้
ล้มแล้วรีบลุก เพื่อก้าวต่อไป
หากยังไปไม่ถึงจุดหมายปลายทาง
หรือยังเอาดีไม่ได้
ก็อย่ายอมแพ้ อย่าหยุดยั้ง
เพราะพ่อเชื่อว่าไม่มีพระเจ้าองค์ไหน
จะมาลิขิตชีวิตเรา
ให้เป็นไปอย่างที่คิดฝันหรือนั่งอ้อนวอนต่อฟ้าดิน
นอกจากสมองและสองมือสองเท้าของเราเท่านั้น
ที่เป็นเครื่องลิขิตชีวิตให้เป็นจริง (ดังที่ฝัน)
พ่อสอนว่า
ตอนนี้ลูกเป็นนักเรียนนักศึกษา
เป็นนักแสวงหาความหมายให้กับชีวิต
ลูกอย่าพึ่งนึกถึงแต่ประโยชน์ของส่วนรวมมากนัก
ซึ่งทำให้มีเวลาศึกษาเล่าเรียนน้อย
เราต้องสร้างตัวเองให้พร้อมเสียก่อน
“ คือการเอาตัวรอด พึ่งตนเองได้
แล้วจึงเผื่อแผ่แก่ส่วนรวมตามโอกาส
เราจึงไม่เสียเวลา เสียพละกำลังใจกาย
เพราะตราบใดที่เรายังพึ่งตนเองไม่ได้
ยังสร้างตนเองไม่ได้
ตราบนั้นเราจะเป็นผู้ให้ไม่ได้ ”
และอาจตกเป็นภาระของสังคมอีกด้วย
แต่เมื่อไหร่ ที่เราพึ่งตนเองได้
ก็อย่าลืมที่จะเผื่อแผ่
อุทิศส่วนที่เหลือของชีวิตแด่สังคม
(งานเขียนขณะเป็นสามเณร ปี 2546)
บันทึกลงเว็บไซต์ kidbuak.com 19/8/2011