การเดินทางตามฝันของอดีตเด็กบ้านนอกพลัดถิ่น “สุทัศน์ ศรีพรม”

สิ่งที่ผมมี ที่คิดว่าใหญ่ไม่แพ้ใคร
ก็คือ ความฝัน….
ผมหอบความฝัน…ข้ามน้ำโขง
ข้ามพรมแดน
ข้ามเขตแคว้นปฐพี
เพื่อสิ่งเดียวคือ ตามหาฝันอันยิ่งใหญ่นั่นคือ การศึกษา…และ ชีวิตการงาน
หมายถึง “ธุรกิจ”

อยากเป็นนักเขียน
นักพูด
นักการศึกษา
นักธุรกิจที่รวยที่สุดของวงศ์ตระกูล
(เนื่องจากตระกูลผมมีแต่ชาวนาจนๆครับ)

พ่อบอกว่า ลูกต้องเรียนสายธุรกิจค้าขายนะ
จะได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องได

แค่นี้ละครับ ผมระลึกถึงคำของพ่อตลอดทุกลมหายใจ

ขณะนั้นผมเป็นสามเณรน้อย ได้เปรียญธรรม 2 ประโยค
ผมกลับไปเยี่ยมบ้านเกิด
นอนคุยกันกับพ่อที่ละเบียงบ้านจนพ่อหลับก่อนผมทุกครั้ง

เหตุผลหนึ่งที่ผมต้องเรียนหนังสือให้สูงที่สุด
เท่าที่ลูกชาวนาจะทำได้โดยไม่ต้องรบกวนเงินพ่อแม่แม้แต่บาทเดียว ผมเกลียดความยากจน….แต่ไม่ได้รังเกียจคนจน

ความจน…ทำให้พ่อแม่ผมลำบากที่ดสุด
พ่อลำบากมาก พ่อจึงฝากความหวังไว้กับลูก
และไม่อยากให้ลูกลำบากเหมือนพ่อ

นั่นคือ สิ่งที่ผมได้รับสาร์นจากพ่อ

จากนั้นผมก็หอมสังขารออกตามล่าความฝัน
ตั้งแต่เด็กๆ โดยทิ้งความทรงจำและความคิดถึงพ่อแม่
ไว้เป็นเพียงห้วงแห่งความนึกคิด

การตามล่าความฝันของอดีตเด็กบ้านนอก
เต็มไปด้วยฉากการต่อสู้ที่เดิมพันธ์ด้วยชีวิต
ชีวิตแลกชีวิต ชีวิตแลกความฝัน

ลูกผู้ชาย…หากได้ก้าวเท้าออกจากบ้านเกิด
ไม่มีวันที่จะถอยหลัง…แปลว่า ไม่มีวันยอมแพ้
หากยังหอบฝันอันเป็นจริงนั้
ไปฝากพ่อแม่ไม่ได้

10 กว่าปีที่ผมล้มลุกคลุกคลาน
กลายเป็นตำนานเรื่องเล่าขาน
ผ่านจอทีวี ผ่านสื่ออนไลน์ ทั้งภาษาไทย และลาวไปทั่วโลก

ธุรกิจเล็กๆ…ชีวิตเล็กๆ คงเปรียบไม่ได้กับชีวิตของคนๆหนึ่ง
ที่เดินทางผ่านกาลเวลา และ ความล้มเหลว

ทว่า ผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่ง ไม่เคยละทิ้งความดีงาม
ความเสียสละ ที่มีต่อผู้มีพระคุณ พ่อแม่ แผ่นดิน แผ่นฟ้า
ที่ให้เราได้มีลมหายใจตามล่าฝัน

Facebook Comments Box