การจะตัดสินใจเรื่องสำคัญของชีวิต
ย่อมมีความสับสน ลังเล ในตัวเอง
มันเป็รอยต่อ มันเป็นทางแยก เป็นทางสามแพร่ง
ที่ต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง
จากประสบการณ์ของผม
ผมอยากจะบอกว่า
อย่าสับสน ลังเล….
เพราะคำพูด คำปรึกษา ของคนอื่น
หรือ ของพี่น้องหมู่บ้าน “ปรารถนาดี” ทั้งหลาย
เวลาคนธรรมดาจะคิดการทำการใหญ่
จะมีแต่คนห่วงใย ปรารถนาดี ไม่อยากเห็นเราล้มเหลว หรือห่วงใย
แต่ในความห่วงใย มันก็มีอะไรทั้งสว่างและมืดในนั้น
OK เราต้องรับฟังความคิดเห็น คำปรึกษา รอบด้าน
เราจะได้รู้ว่า คนอื่นคิดเห็นอย่างไร
แล้วเราเอามากลั่นกรอง และตัดสินใจด้วยตัวของตัวเอง
เชื่อมั่นตัวเอง อย่าเชื่อมั่นคนอื่น
อย่าคลอ้ยตามคนอื่นจนเป้าหมายไขว่เขว
สุดท้ายก็ไม่ได้ทำอะไรอย่างที่คิดใหญ่ ฝันใหญ่
แล้วคนที่เสียใจ คือตัวเรา …..
เสียใจที่ไม่ได้ทำ ในห้วงเวลาที่เหมาะสมกับอายุ
จะมาเชื่อตัวเองอีกที อ้าว….อายุ 35 หรือ 40 แล้ว
“โธ่เอ่ย…!!! เซ็งว่ะ”
ผมเป็นคนเด็ดขาด เด็ดเดี่ยว
และพร้อมที่จะตายดาบหน้า
ถ้าผมตัดสินใจแล้ว เอาช้างมาลากไว้
ก็จะได้แค่ร่างกายของผม แต่ใจผมไปแล้ว
อย่ารอให้พร้อมครับ
ผมก็เคยรอ แต่ก็เกือบเสียใจ
โชคดีที่เป็นคนเด็ดขาด
ชีวิตเป็นของเรา….
ทำแล้วเสียใจ ดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำตามฝัน
อย่ารอให้คนอื่นเปลี่ยนเรา….
เราต้องชิ่งเปลี่ยนตัวเองก่อนดีกว่า
ไม่รวยก็ ก็จนเท่าเดิม ไม่จนก็รวย
ไม่ประสบความสำเร็จก็ล้มเหลว
แต่ผมเชื่อว่าจะทำให้เราฉลาดขึ้น แกร่งขึ้น
ที่สำคัญตัดสินใจเดินตามทางของตัวเองแล้ว
อย่าประมาทเด็ดขาด แค่นี้ละครับ
คำสอนสุดท้ายที่พระพุทธเจ้าฝากไว้ก่อนปรินิพพาน